การศึกษาคือรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศชาติและคุณภาพของการศึกษาขึ้นอยู่กับคุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ ในยุคแห่งศตวรรษที่ 21 การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการจดจำเนื้อหา แต่เน้นการพัฒนาทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานได้จัดทำโครงการพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล กิจกรรมการยกระดับสมรรถนะความฉลาดรู้ของผู้เรียนตามกรอบการประเมิน  PISA  2025  สู่การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในศตวรรษที่  21  ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน โดยการประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (PISA) ประเมินผู้เรียนระดับนานาชาติถือเอาคุณภาพผู้เรียนซึ่งเป็นผลผลิตของโรงเรียนและครูผู้สอนสะท้อนกลับไปถึงคุณภาพการจัดการศึกษา การเตรียมความพร้อมรับการประเมิน  PISA 2025 จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินงานอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกภาคส่วน  เพื่อเตรียมความพร้อมรับการประเมิน  PISA 2025 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมรรถนะความฉลาดรู้ (Literacy) ในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (Reading Literacy) ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ (Mathematical Literacy) และความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจ วิเคราะห์ และแก้ปัญหา ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ 

ผู้บริหารสถานศึกษามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และผู้นำทางวิชาการในการขับเคลื่อนนโยบายและกลยุทธ์ เพื่อยกระดับสมรรถนะความฉลาดรู้ของผู้เรียน การนำรูปแบบการบริหารแบบ STR-GREAT model มาใช้จะช่วยให้สถานศึกษาสามารถวางแผน ดำเนินการ และประเมินผลได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้มีความพร้อมสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต จากความสำคัญข้างต้นในฐานะผู้บริหารกลุ่มบริหารงานวิชาการจึงได้นำรูปแบบการบริหารแบบ STR-GREAT model มาใช้ในการบริหารและขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อยกระดับสมรรถนะความฉลาดรู้ของผู้เรียนตามแนวทางการประเมิน PISA สู่ความเป็นเลิศ